รวบรวมความรู้ ภูมิปัญญาชาวบ้านของไทย ให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่ออย่างภาคภูมิใจ
ปอกะบิด "พิชิตเบาหวาน" “ปอกะบิด” “พิชิตเบาหวาน-ลดความดัน –เก๊าท์-ปวดข้อ” จำรัส เซ็นนิล รวบรวม/เรียบเรียง เชื่อไหมครับ ว่าญาติพี่น้องผมทุกคนเป็นโรคเบาหวานหมด เป็นมากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่เครื่องตรวจวัดจะตรวจพบ โดยฝีมือน้องชายผม ที่ฟิตจัดชอบถือเครื่องวัดเบาหวานเดินไปเดินมา ใครผ่านเข้ามาเพื่อนจับวัดหมด ยกเว้นผมคนเดียวไม่เป็น เพราะผมไม่ให้ตรวจวัด ผมแอบดื่มชาปอกะบิด เป็นเกราะป้องกันแล้ว ฮ่าๆๆ เบาหวานเป็นโรคที่มีระดับน้ำตาล กลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดจากความผิดปกติที่ตับอ่อนทำให้หลั่งฮอร์โมนอินซูลินลดลง หรือมีฮอร์โมนอินซูลินแต่ออกฤทธิ์ไม่ได้ตามปกติที่เรียกว่ามี “ภาวะดื้อต่ออินซูลิน” หรือมีความผิดปกติทั้งสองอย่างร่วมกัน แล้วเมื่อไรจึงจะถือว่าเป็นโรคเบาหวาน ก็เมื่อ ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดในเวลา เช้าหลังอดอาหารข้ามคืนมาอย่างน้อย ๘ชั่วโมง (Fasting plasma glucose, FPG) จะเป็นตัวบอกว่าท่านเป็นโรคเบาหวานแล้วหรือยัง และดูระดับน้ำตาลในเลือด (FPG) มิลลิกรัม/เดซิลิตรคนปกติ จะอยู่ที่ ๗๐-๙๙ ผู้ที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน จะอยู่ที่ ๑๐๐-๑๒๕ (Impaired fasting glucose, IFG ) หรือเบาหวาน มากกว่าหรือเท่ากับ ๑๒๖ หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วเราจะ รู้ได้อย่างไรว่าเป็นเบาหวาน ส่วนใหญ่รู้เมื่อมีอาการจากการที่มีน้ำตาลในเลือดขึ้นสูง ได้แก่อาการคอแห้ง หิวน้ำบ่อย ปัสสาวะบ่อย และปัสสาวะเป็นจำนวนมาก หิวบ่อย ทานจุ แต่น้ำหนักลดลงเรื่อยๆ อ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีแรง เป็นต้น บางคนอาจไม่มีอาการดังกล่าวหรือมีอาการไม่มาก ไม่ชัดเจน แต่จะมาพบแพทย์ด้วยอาการของภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น ตามัว มองเห็นไม่ชัดเนื่องจากมีต้อกระจกหรือจอประสาทตาเสื่อม เท้าชา ไม่รู้สึก หรือมีอาการปวดแสบร้อนที่เท้า เป็นแผลที่เท้าเรื้อรังไม่หาย หรือนิ้วเท้าดำเนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง หรือมีอาการของโรคไตวาย เช่น บวม ซีด ปัสสาวะเป็นฟอง เป็นต้น อาการของโรคเบาหวานและภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เหล่านี้จะปรากฏเมื่อเป็นโรคเบาหวานมานานหรือมีระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูง มาก คนที่เริ่มเป็นเบาหวานใหม่ๆ มักจะไม่มีอาการ แต่ไม่ควรรอจนเป็นมากค่อยมาตรวจและเริ่มการรักษา เพราะภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวานส่วนใหญ่ถ้าเป็นมากแล้วจะรักษาไม่หาย ดังนั้นคนที่สงสัยว่าจะเป็นเบาหวานหรือมีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานควรได้รับ การตรวจว่าเป็นเบาหวานหรือไม่เสียแต่เนิ่นๆนะครับ สำหรับการรักษาโรคเบาหวานสามารถรักษาได้ด้วยการควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การรักษาด้วยยา และการได้รับความรู้โรคเบาหวาน คอยดูแลสุขภาพให้สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือดเวลาเช้าหลังอดอาหารมาอย่างน้อย ๘ ชั่วโมง ๗๐-๑๓๐ มิลลิกรัม/เดซิลิตร ระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหาร ๒ ชั่วโมง ควรน้อยกว่า ๑๘๐ มิลลิกรัม/ เดซิลิตร ระดับน้ำตาลสะสมเฉลี่ย (HbA1c) ควรน้อยกว่า ๗ % คนที่เป็นโรคเบาหวานควรงดสูบบุหรี่เพราะจะทำให้หลอดเลือดแดงหดตัว และเกิดหลอดเลือดแดงตีนตันได้ง่ายขึ้น ดังนั้นผู้เป็นโรคเบาหวาน จึงควรงดสูบบุหรี่ เวลาผมลงพื้นที่ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้สูงอายุหลายๆคนซึ่งส่วนใหญ่มักประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ช่วงนี้สมุนไพรที่ฮือฮาที่สุดในการรักษาโรคเบาหวานคือสมุนไพร “ปอกะบิด” เนื่องจากหลายคนได้กินแล้วอาการโรคเบาหวานดีขึ้นตามลำดับแถมพลอยทำให้อาการโรคความดัน เก๊าท์ ปวดข้อปวดเข่าปวดกระดูก ปวดหลังปวดเอว ชาปลายมือปลายเท้า นิ้วล็อค เหน็บชา ไทรอยด์ ภูมิแพ้ ไมเกร็น บำรุงตับ ไตแก้ปัญหาภายในมดลูกได้อีกด้วย อัตราส่วนในการต้มใช้ผลปอกะบิดประมาณ ๒๐-๓๐ ฝัก ต้มกับน้ำ ๑.๕ ลิตรต้มให้เดือด ดื่มก่อนอาหาร ๓ เวลา ต้มได้ ๓ ครั้งหรือจนกว่าตัวยาจะมีสีจาง ทุกวันนี้ตามร้านขายยาสมุนไพรไทยมักจะมีคนมาถามหาปอกะบิดหรือปอกะบิดบ่อยๆ แต่เจ้าปอกะบิดหรือบางคนก็เรียก “กระบองบิด”หรือลูกระเบิด ก็ไม่เคยมีหลงเหลืออยู่ในร้านนาน สมุนไพรนี้ดีไม่ดี ขนาดเจ้าหน้าที่รัฐสภา ต้มใส่ขวดหอบหิ้วมากินถึงที่ทำงานทุกวัน รสชาติไม่ขม ข้อสำคัญยังสลายไขมัน ทำให้หุ่นดีอีกด้วย ฮ่าๆๆ อย่างนี้นี่เอง ผมรู้จักสมุนไพรกระบองบิดที่วัดพระแท่นดงรัง อ.พระแท่นดงรัง จังหวัดกาญจนบุรี เห็นครั้งแรกก็งง..เหมือนกันเพราะผลบิดเป็นเกลียวเหมือนเกลียวตะปูยาวประมาณ ๒-๓ ข้อมือขนาดเท่าตะเกียบผมนำมาฝากให้คนป่วยโรคเบาหวานกินดูผลปรากฏว่าดีขึ้นจนเห็นผลชัด ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง จนล่าสุดไปพบต้นกล้าที่ตลาดน้ำวัดสมหวัง อ.เมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี “ต้นอะไรครับลุง” ผมถามลุงเจ้าของต้นกล้าที่วางจำหน่าย “ปอกะบิดครับ” ลุงตอบทันควัน “อ๋อ..เอามาจากวัดพระแท่นดงรังเมืองกาญน์ใช่ไหม ? “อ้าวทำไมรู้ล่ะ” ลุงสงสัย “ฮ่าๆๆๆๆ จะเล็ดรอด..สายตาผมไปได้ยังไง” ตอบอย่างภูมิใจ ยังไม่ทันได้ถามต่อลุงก็พูดขึ้นมาว่า “ลุงซื้อมาแล้วลองเพาะดู ปรากฏว่าขึ้นดีเลยเอามาแบ่งปันให้คนที่สนใจ” ผมมองไปที่ต้นกล้ายังเหลืออีก ๖ ต้น เลยบอกให้ลุงใส่ถุง นำกลับกรุงเทพฯ ยังไม่ทันถึงกรุงเทพฯแวะแฟนคลับรายทางตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร เพชรบุรีสมุทรสงคราม เหลือมาถึงกรุงเทพฯ แค่ ๒ ต้น ฮ่าๆๆ ผมจัแจงลงดินปลูกเฝ้าดูแลตั้งแต่ต้นสูงแค่คืบใส่ปุ๋ยรดน้ำพรวนดินปัจจุบัน ต้นสูงท่วมหัว ( ๑ สค..๒๕๕๖) ลำต้นขนาดนิ้วชี้ แต่ใบใหญ่มาก โตวันโตคืนใบของมันก็สามารถทำชาดื่มแก้โรคเบาหวานได้เช่นกัน ปอกะบิดมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Helicteres isora L. เป็นพืชในวงศ์ Sterculiaceae ปอกะบิดหรือปอบิด ( East Indian screw tree ) มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามพื้นที่ปลูก ภาคเหนือเรียกมะบิด เชียงใหม่เรียกปอลิงไซ ปอทับ ขี้อ้นใหญ่ ชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงเรียก ซ้อ คนอิสานเรียก ข้าวจี่ คนจีนเรียก ห้วยเลาะมั่ว และ หั่วลั่งหมา ปอกะบิดเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ ๑-๒ เมตร มีขนสีน้ำตาลปกคลุมทั่วทุกส่วน ลำต้นกลม เรียว อ่อนคล้ายเถา บริเวณส่วนเปลือกมีสีเทาและมียางเหนียว ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ แผ่นใบสาก ท้องใบจะมีขนกว้าง ๒.๕-๓.๕ นิ้ว ยาว ๔-๘ นิ้ว ม้วนเว้าเข้าหากัน ขอบใบหยักเป็นแบบฟันปลา ดอกจะมีสีส้มหรือสีแดงอิฐ จะออกเป็นกระจุกระหว่างต้นกับใบ กระจุกละประมาณ ๒-๓ ดอก แต่ละดอกมีใบประดับขนาดเล็กรองรับ มีกลีบรองกลีบดอกสีเหลือง มีกลีบดอก ๕ กลีบ กลีบคู่บนมีขนาดใหญ่กว่ากลีบอื่น ปลายกลีบมน มีทั้งเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมีย เกสรตัวผู้มีสีเหลือง มี ๑๐ อันเชื่อมรวมกับก้านของเกสรตัวเมีย ผล มีลักษณะเป็นฝักยาว กลม บิดเป็นเกลียวมีทั้งบิดซ้ายและบิดขวา ยาว ๓-๔ เซนติเมตร ออกผลประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม เมื่อแก่จะมีสีน้ำตาลหรือสีดำ แก่เต็มที่ฝักจะอ้าออก ที่ผมเขียนแนะนำละเอียดเผื่อท่านไปพบเห็นที่ไหนจะได้ร้อง..อ๋อ ต้นปอกะบิดนี่เอง สรรพคุณ ราก ใช้ต้มเอาน้ำกิน รสฝาดเฝื่อน บำรุงธาตุ แก้ท้องร่วง แก้บิด ( ชื่อตามอาการ) ขับเสมหะ แก้ปวดเคล็ดบวม โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตเปลือกลำต้น มีสารเฮมิเซลลูโลส ๑๕.๘ %, ลิกนิน ๒.๘๙ %, เซลลูโลส ๑๘.๖ %, เพคติน ๐.๔ %, น้ำมัน ๓.๑๑ %, กรดไฮดรอกซี่คาร์บอซีลิค, ไฟโตสเตอรอล, phobatanin ใช้เปลือกลำต้นนำมาต้มเป็นยาแก้โรคบิด ท้องร่วง และเป็นยาบำรุงธาตุ ฝัก แก้บิด แก้เบาหวาน ปวดท้อง แก้โรคลำไส้ในเด็ก แก่น รสจืดเฝื่อน บำรุงน้ำเหลือง บำรุงกำลัง แก้เสมหะ แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ท้องอืด แก้ปวดเคล็ดบวม แก้เสมหะ แก้ลงแดง กระเพาะอาหารเป็นแผล อักเสบ หรือเรื้อรัง ถ้ามีใครเดินไปตามร้านขายผัก หรือสมุนไพรในขณะนี้ คงไม่มีใครไม่เห็นสมุนไพรที่เรียกกันว่า ปอกะบิด วางขายอยู่ทั่วไปพร้อมทั้งมีใบปลิวแนบสรรพคุณมากมาย ตั้งแต่ รักษาเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ลดน้ำหนัก แก้เหน็บชา ชาปลายมือปลายเท้า ภูมิแพ้ ไทรอยด์ ปวดข้อ เข่า ปวดหลังปวดเอว รวมถึง ไมเกรน เก๊าท์ นิ้วล็อค บำรุงตับ ไต ล้างสารพิษในร่างกาย ต้านมะเร็ง ปรับสมดุลในร่างกาย ลดอาการตกขาว ประจำเดือนมาไม่ปกติ และใช้ได้ในโรคเรื้อรังทุกชนิด รวมถึงระบบของสตรี ด้วยวิธีการเตรียมที่ง่าย สะดวก โดยการต้ม และมีรสชาติที่ดื่มง่าย ดังนั้นมีผู้คนจำนวนมากเริ่มสนใจ และใช้มัน และมีหลายคนที่ตั้งคำถามที่ว่ามันใช้ได้จริงหรือ และปลอดภัยหรือไม่ คงไม่ต้องถามว่ามี อย.หรือไม่ เพราะหมอพื้นบ้านใช้รักษาสืบสานมานาน บางคนกังวลคงไม่ถึงขนาดถามมะพร้าว มะละกอ ที่วางขายในท้องตลาดว่ามี อย.หรือไม่ ฮ่าๆๆ ถ้าไม่ดีจริงคงไม่บอกต่อปากต่อปาก และขายดีจนไม่พอขาย หายากเพราะปอกะบิดจะออกผลในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมเท่านั้น ในประเทศอินเดียใช้ผลแก้ท้องเสียเช่นเดียวกัน และมีการทดลองพบว่าสารสกัดด้วยน้ำมีฤทธิ์ที่ดีในการยับยั้งเชื้ออีโคไล ที่เป็นเชื้อสาเหตุของอาการท้องเสียทั่วไป และให้ผลดีกับเชื้อ Salmonella typhimurium ซึ่งเป็นเชื้อสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระเพาะอาหารหรือลำไส้อักเสบอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผลปานกลางต่อเชื้อไข้ไทฟอยด์ (Salmonella typhi)ซึ่งมีอาการไข้ร่วมกับท้องเสียอื่นๆ และมีผลยับยั้งการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อเรียบ ถึงแม้งานวิจัยนี้จะสอดคล้องการใช้ในโรคท้องเสีย การศึกษาวิจัยประสิทธิภาพของปอกะบิดในโรคอื่นที่น่าสนใจ ได้แก่ โรคเบาหวาน พบว่าสารสกัดน้ำจากผลปอกะบิดมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในหนูขาวที่ทำให้เป็นเบาหวาน และป้องกันไม่ให้ระดับไขมันสูงขึ้นซึ่งมักพบตามมาหลังจากการเป็นเบาหวาน ฤทธิ์ของสารสกัดคล้ายกับยาไกลเบนคลาไมด์ การทดลองในเซลล์เพาะเลี้ยงพบว่าเพิ่มการขนส่งน้ำตาลเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อของหนูทดลอง และเพิ่มการขนส่งน้ำตาลเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อกระบัง สรรพคุณปอกะบิดเหนือคำบรรยายโดยเฉพาะผู้ที่เคยใช้จะประทับใจแล้วบอกต่อ ใช้ต้มกินไม่ถึงเดือนสามารถพิชิตโรคเบาหวานได้ แม้กระทั้งพระมหาสีไพร ศูนย์ปฎิบัติธรรมอนุรักษ์มรดกไทย อ.เขาคิชฌกูฎ จ.จันทบุรี ก็แนะนำให้ผู้ป่วยใช้ ทุกวันนี้มีผู้ป่วยเบาหวานหลายคนกินยาเป็นอาหารเวลาออกจากบ้านพกยาเป็นตลับ กิน๓ เวลาสารเคมีสะสมทุกวันคิดเอาเองเถิด กินเป็นปีๆ ซึ่งโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังควรลด-ละ-เลิก หันมาดูแลตัวเองด้วยแนวธรรมชาติบำบัดตั้งแต่อาหารการกินจนถึงการใช้สมุนไพรใกล้ตัว ขอแนะนำนอกเหนือจากการนำผลปอกะปิดมาต้มดื่มแล้ว ควรแบ่งไว้ปลูกด้วย เม็ดเท่าเม็ดผักชี เมื่อต้นกล้าโต สามารถจำหน่ายได้ต้นละ ๕๐-๑๐๐ บาท สร้างรายได้ให้กับครอบครัว ๑ ฝักมีเมล็ดมากกว่า ๑๕ เมล็ด ใครสนใจฝักปอกะบิดติดต่อได้ที่คุณบัวคำ บ้านส่งเสริมสมุนไพรไทย โทร. ๐๙-๓๕๒๕-๒๗๒๗ รายได้เพื่อโครงการอนุรักษ์พืชสมุนไพรไทย ----------------------------------------------------------