เรื่องเล่าสุขภาพ

มะเร็งพิษร้ายพ่ายน้ำผักผลไม้
               มะเร็งพิษร้ายพ่ายน้ำผักผลไม้
                                                                จำรัส  เซ็นนิล รวบรวม/เรียบเรียง
 
          เหลือเชื่อครับ ถ้าจะบอกว่าน้ำผักผลไม้สามารถยับยั้งเจ้าเชื้อร้ายมะเร็งที่เราท่านเกลียดมันมากๆเพราะเจ้ามะเร็งมาเยี่ยมใครแล้วน้อยรายจะรอด ทั้งเสียขวัญ หมดกำลังใจเครียดและทรุดจนลงหมดสภาพทุกคนขนานนามเจ้ามะเร็งว่าปีศาจร้ายและไม่อยากพาลพบ
         ในกระบวนการรักษาโรคโดยไม่ใช้ยาหรือธรรมติบำบัด ผมเคยสัมภาษณ์ผู้นำเกษตรกรที่จังหวัดเชียงใหม่ป่วยด้วยโรคมะเร็งมาแล้ว เธอปฏิเสธการรักษาด้วยแผนปัจจุบัน แล้วหันกลับมาอยู่กับธรรมชาติ ปลูกพืชผักกินเอง โดยกินอาหารให้เป็นยา  สามารถฝ่าวิกฤติรอดจากเงื้อมมือของมะเร็งปีศาจร้ายอย่างน่าอัศจรรย์
         “ ถามว่าดิฉันกินอะไร ก็ไม่มีอะไรพิเศษ กินพืชผักที่ปลูกเองมั่นใจว่าปลอดสารเคมีร้อยเปอร์เซ็น อยู่กับธรรมชาติทำงานในสวนถือเป็นการออกกำลังกาย ที่แน่ๆคือไม่เครียดใจสู้ ช่วงหลังๆไปตรวจเนื้อร้ายมันยุบไปเลยก็แปลกดี”
        คนเราจะมีกี่มากน้อยที่โชคดีแบบเธอ บางรายภาระกิจการงานอยู่กับที่ทำงาน จะหาพื้นที่สวนปลูกผักก็คงลำบาก หลายรายเลือดวิธีรักษาแบบสมัยใหม่ด้วยความใจร้อนอยากหายเร็ว แล้วก็หายจริงๆหายไปจากโรคและโลกอย่างน่าเสียใจ หลายรายบอบช้ำเพราะใช้ยาไม่ถูกกับโรคต้องทนทุกข์ทรมานเสียเงินเสียทองจนหมดเนื้อหมดตัวโรคร้ายก็ยังไม่หาย พลอยทำให้ญาติพี่น้องเดือดร้อนไปด้วย
      จากประสบการณ์ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งหันมาเยียวยาด้วยแนวทางธรรมชาติบำบัดโอกาสรอดมีสูงกว่าการรักษาด้วยแผนปัจจุบัน การรักษาด้วยแผนปัจจุบันดีช่วงแรกๆแต่ระยะยาวร่างกายจะทรุดอันด้วยฤทธิ์ของสารเคมีที่ฆ่าเซลล์ร้ายและไปกระทบเซ็ลล์ดีให้พลอยเสื่อมไปด้วยอย่างไม่น่าจะเป็น
     ส่วนแนวการรักษาแบบธรรมชาติบำบัดอาจต้องใช้เวลาแต่ยั่งยืน ผู้ป่วยต้องให้ความร่วมมือปฏิบัติตัวหลีกเลี่ยงของแสลงอย่างเคร่งครัด กินไม่ต้องอร่อยลิ้นแต่รอด ผู้ป่วยส่วนมากกินอร่อยลิ้นแต่ไม่รอด ต้องเลือกเอา
            มีงานวิจัยพบว่า สารประกอบในพืชผักที่เรียกว่า ไฟโทเคมิคอล (phytochemicals) เป็นกุญแจไขสู่วิธีป้องกันโรครุนแรง และโรคร้ายแรง อย่างเช่น มะเร็ง โรคหัวใจ หอบหืด ข้ออักเสบเรื้องรัง และโรคภูมิแพ้ นอกจากนี้สารดังกล่าวยังชะลอความเสื่อมของร่างกาย ทาให้ดูเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่เสมอ
          เมื่อช่วงเดือนมีนาคม ๒๕๕๗ มีข่าวที่น่ายินดีเมื่อ ศ.นพ.พิทยภูมิ ภัทรนุธาพร ผอ.รพ.จุฬาภรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงเครื่องเทอโมตรอน-อาร์เอฟแปด (Thermotron-RF8) ซึ่งเป็นเครื่องมือรักษามะเร็งด้วยความร้อน เรียกว่า “ไฮเปอร์เธอร์เมีย” (Hyperthermia) นับเป็นอีกทางเลือกในการใช้ร่วมกับการรักษาในปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งการผ่าตัด การฉายรังสี และการใช้ยาเคมีบำบัด       
 
เครื่องเทอโมตรอน-อาร์เอฟแปด
           ภาพจาก รพ.จุฬาภรณ์
          โดยเครื่อง Thermotron-RF8 นั้นนำเข้าจากญี่ปุ่น ซึ่งมีการใช้มานานกว่า ๒๐ ปี ราคาประมาณ ๕๐ ล้านบาท มีศักยภาพใช้งานได้เป็น ๑๐ ปี ทั้งนี้ โรงพยาบาลได้นำมาติดตั้งเป็นครั้งแรกของไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้การรักษา รวมทั้งวิจัยศึกษา เป็นการพัฒนาการรักษาเพื่อก้าวสู่ศูนย์รักษามะเร็งครบวงจร (Comprehensive Cancer Center) และทำให้คนไทยมีโอกาสเข้าถึงการรักษามากขึ้น ตามพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธาน รพ.จุฬาภรณ์ ว่าให้ทำทุกอย่างเพื่อช่วยผู้ป่วยคนไทยได้รับโอกาสการรักษาทัดเทียมต่างประเทศ
        นอกจากการรักษามะเร็งด้วยเครื่องมือทันสมัยแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ มีเสียงโจษขานร่ำลือกันในโลกออนไลน์ว่า ได้นำสูตรน้ำผักผลไม้ของฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ไปรักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ผมขอคัดลอกข้อความที่เผยแพร่โดยไม่มีการตัดทอนดังนี้
      .....น้องที่ทำงานของเปิ้ลมีญาติเป็นมะเร็ง ๒ คน หมอนัดทำคีโม ๑ คน ผ่าตัด ๑ คน โดยให้ไปพักผ่อนก่อน ๑-๒ อาทิตย์ก่อนทำการรักษา ...ระหว่างนั้นเองน้องที่ทำงาน ได้สูตรน้ำผัก ผลไม้ของฟ้าหญิงฯมาก็เลยลองให้ญาติทานดู แทนน้ำเลยวันละ ๑ ลิตร เป็นเวลา ๒ สัปดาห์เท่านั้น ไปตรวจอีกครั้ง ก้อนเนื้อที่เป็นมะเร็งเล็กลงจนเกือบไม่มีเลย ๑ คน ส่วนอีกคนมะเร็งหายไปเลย...ไม่น่าเชื่อ เค้าตื่นเต้นกันมาก หมอรพ.จุฬาขอสูตรกันยกใหญ่ ตอนนี้น้องๆที่แผนกเลยสั่งกินกันทุกวัน เพื่อเป็นภูมิต้านทาน ส่วนใครที่มีญาติเป็นมะเร็ง นำสูตรนี้ไปให้กินได้เลย หรือบอกต่อๆกันไป....เป็นอานิสงส์นะ                             
           น้ำผัก ผลไม้สูตรในวัง   ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีผิวพรรณสดใส โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เป็นโรคมะเร็งจะดีมาก มีคนแถวบ้านเป็นมะเร็งอายุประมาณ  ๘๐กว่าแล้ว ต้องทำคีโม แต่ปรากฎว่าพอรับประทานน้ำผลไม้สูตรนี้เป็นเวลาประมาณไม่ถึง๑เดือน ปรากฏว่าผมงอกขึ้น และแข็งแรงขึ้นมาก จนหมอตกใจ ลองนำไปปั่นทานกันดู...น่าจะดีต่อสุขภาพไม่มากก็น้อย ส่วนประกอบก็ราคาไม่แพงมากด้วย
            มี แอปเปิ้ล ๑  ผล    แครอท ๑ ลูก    ผักสลัด (ผักกาดแก้ว) ๓ ใบ  ผักตั้งโอ๋ ๒ ก้าน   มะนาว ๑ ลูก        น้ำเสาวรส ครึ่งแก้ว (ถ้าไม่มีสดเอากระป๋องก็ได้)  น้ำผึ้งแท้ ครึ่ง แก้ว   น้ำเปล่า ครึ่งถ้วย   ฝรั่ง ๑ ผล     มะเขือเทศสีดา (ลูกเล็กๆ)  ๕ ลูก   น้ำตาลทรายแดง ๓ ช้อนโต๊ะ
            นำทุกอย่างมาปั่นรวมกัน สูตรนี้จะทำได้ประมาณ ๑ ลิตร  ในกรณีที่เป็นคนป่วย ให้รับประทานวันละ ๑ ลิตร  แต่ถ้าดื่มเพื่อสุขภาพเฉยๆ สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ ๒-๓  วัน
         ได้ข้อมูลแล้วใครที่ป่วยหรือไม่ป่วยอยากจะทำดื่มป้องกันหรือรักษาก็ลองทำดูนะครับพืชผักผลไม้ก็หาง่ายแต่หากไม่ได้ปลูกเองซื้อหาตามท้องตลาดต้องล้างน้ำให้สะอาดจนมั่นใจไม่มีสารเคมีเจือปน แล้วจึงนำไปปั่น หากดื่มแล้วดี ตามคำร่ำลือก็ช่วยกันบอกต่อเอาบุญนะครับ
                                    ----------------------------------------------------------------------
 
                                
 
 
                                                        
  

blog comments powered by Disqus