26 ก.ค. 2559 เวลา 7:46 น., โดย จำรัส เซ็นนิล
ไม่น่าเชื่อหมอหยุดงานคนตายน้อยลง
ไม่น่าเชื่อ..
“ หมอหยุดงานคนตายน้อยลง”
พันธุ์ แสนไพร รวบรวม/เรียบเรียง
คนเป็นหมอย่อมรู้ดี ว่าจากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา การรักษาผู้ป่วยให้รอดจากโรคไข้หวัดนก มะเร็ง มีสถิติการรอดมากน้อยขนาดไหน คุณหมอคนโด มะโกะโตะ( Kondo Makoto) แพทย์ประจำภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคโอ ญี่ปุ่น เปิดเผยความในใจว่าเลยว่า
“เคสที่ผมช่วยรักษาไข้ได้ มีน้อยยิ่งกว่าน้อย หวัด ไข้หวัดใหญ่ก็รักษาไม่ได้ มะเร็ง โรคไต ตับอักเสบก็รักษาไม่หาย พอใช้ยาก็มีผลข้างเคียงร้ายแรง ซ้ำร้ายส่วนมากยังบั่นทอนชีวิตให้สั้นลงเสียอีก เพียงทำให้ค่าความดันโลหิต โรคเบาหวาน โรคไขข้อลดลงหรือบรรเทาความเจ็บปวดเท่านั้น”
ผมก็พยายามทบทวนคนที่ผมรู้จักหลายคนเมื่อครั้งผมไปเยี่ยมขณะนอนรักษาตัวมีสายน้ำเกลือเครื่องช่วยหายใจ หมอก็พยายามเยียวยารักษาความดันและการเต้นของหัวใจ มี เครื่องวัดค่าตัวเลขขึ้นๆลงไม่สม่ำเสมอ อยู่ข้างเตียง รักษาและ ให้ยาจนไม่รู้จะให้ยาอะไรแล้วจนมาตรการเผด็จศึกกับเชื้อร้ายใช้ยารุนแรง
มีผู้สูงอายุหลายคน ทนต่อฤทธิ์ยาไม่ไหวเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือภาวะผิดปกติหลังผ่าตัดจนบั่นทอนชีวิตให้สั้นลง หมอเขาเรียนมาทางผ่าตัดเขาต้องผ่าอยู่ดี ยาตัวนี้ไม่ได้ผล ก็ต้องเปลี่ยนตัวใหม่และรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ
ท่านผู้อ่านครับมันเป็นเรื่องจริงที่ ไม่น่าเชื่อ และเกิดขึ้นเป็นข่าวมาแล้ว ในปี ค.ศ.๑๙๗๖ หมอที่ประเทศโคลอมเบียทางอเมริกาใต้ประท้วงหยุดงาน ๕๒ วัน นอกจากการตรวจรักษาฉุกเฉินแล้วทุกอย่างที่โรงพยาบาลก็หยุดหมด ข่าวหนังสือพิมพ์รายงานผลข้างเคียงแปลกประหลาดว่า อัตราการเสียชีวิตลดลง ๓๕ % สมาคมประกอบพิธีศพของภาครัฐออกมาให้ความเห็นว่า มันอาจเป็นเรื่องบังเอิญแต่ความจริงก็คือความจริง มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
และที่ลอสแอนเจลิสก็ประท้วงหยุดงานในปีเดียวกัน โรงพยาบาลหลัก ๑๗ แห่งมีการผ่าตัดลดลงกว่าปกติถึง ๖๐ % อัตราการเสียชีวิตลดลง ๑๗ % พอเลิกประท้วงมาตรวจคนไข้ใหม่ อัตราการเสียชีวิตก็กลับเท่ามาตรฐานเดิมก่อนการประท้วง
แล้วที่อิสราเอลที่มีการประท้วงเมื่อปี ค.ศ.๑๙๗๕ คนไข้มาตรวจลดฮวบฮาบลง จาก ๖๕,๐๐๐ คนต่อวันเหลือ ๗,๐๐๐ คนต่อวันและที่เยรูซาเล็มมีการประท้วงหยุดงานในปี ค.ศ.๒๐๐๐ ก็มีผู้เสียชีวิต ๙๓ คน ในช่วงการประท้วง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีผู้เสียชีวิต ๑๕๓ คน อ่านแล้วก็ลองคิดดูว่ามันมีส่วนหรือเปล่า ไม่น่าเชื่อเลย ฮ่าๆๆ
แล้วท่านอยากไปเพิ่มสถิติการ “รอคิวตาย” หรือเปล่า ถ้าไม่ต้องการก็หมั่นดูแลสุขภาพเสียแต่เนิ่นๆก่อนที่จะหมดเรี่ยวแรง จนญาติๆต้องหามส่งไปเพิ่มยอดทำลายสถิติ ฮ่าๆๆ