รวบรวมความรู้ ภูมิปัญญาชาวบ้านของไทย ให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่ออย่างภาคภูมิใจ
วัดพุทธนิมิต อุโบสถสวยที่สุดแถบลุ่มแม่น้ำโขง วัดพุทธนิมิต “ อุโบสถที่สวยที่สุดในแถบลุ่มน้ำโขง” จำรัส เซ็นนิล รวบรวม/เรียบเรียง ใครจะคาดคิดว่าในหมู่บ้านเล็กๆริมแม่น้ำโขงของ อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จะมีอุโบสถ ที่สวยงาม รายรอบด้วยธรรมชาติป่าไม้ที่เขียวขจีโอบอุ้มให้สดชื่นเย็นสบายดังแดนสวรรค์ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สูงตระหง่านขนาบซ้ายขวาด้วยพญานาค ๒ ตน หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มองเห็นภูเขาที่ยาวเหยียดฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีแม่น้ำโขงสายน้ำที่ไม่เคยเหือดแห้ง ไหลผ่านชั่วนาตาปี เพียงได้เข้าไปสัมผัส เราสามารถสัมผัสได้ถึงความสุข ความสงบ และการปล่อยวางจากภาพปริศนาธรรม คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แฝงอยู่ในอุโบสถศิลปะล้านนาผสมผสานกับศิลปะเชียงทอง ที่หลวงพระบาง และศิลปะอีสานบางส่วน พระอธิการสุพิช รตนโชโต หลังจากผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ ผ่านมาพบเห็นได้เสนอข่าวไป ทำให้เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวขับรถยนต์มายังวัดพุทธนิมิต ร่วม ๒,๗๓๐ คัน รถติดหลายกิโลเมตร พระอธิการสุพิช รตนโชโต เจ้าอาวาสวัดพุทธนิมิต และมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลหนองเทา อ.ท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เล่าให้ฟังว่า พื้นเพ เดิมของท่านเป็นชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ในอดีตได้เดินธุดงค์ไปหลายจังหวัดมาจนกระทั่งได้มาถึงสถานที่ ที่มีนิมิตอันดีจึงปักหลักปฏิบัติธรรม ซึ่งสถานที่นี้เป็นป่าช้าเก่าของหมู่บ้านตาลหนองเทา ตำบลหนองเทา อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม มีต้นไม้ใหญ่มากมาย สงบร่มเย็น ติดกับแม่น้ำโขง เหมาะสำหรับปฏิบัติธรรม จึงได้พัฒนาบุกเบิกก่อตั้งวัด ขึ้นในปี ๒๕๓๘ ทำให้ชาวบ้านมีจิตศรัทธา ร่วมพัฒนาก่อสร้างวัดต่อเนื่องเรื่อยมา และมีงานปริวาสกรรมช่วง ๒๐-๒๙ เมษายนของทุกๆปี จะมีพระสงฆ์และญาติโยมมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า ๓๐๐ คน พระอธิการสุพิช รตนโชโต บอกว่า ในอดีตถ้าชาวบ้านที่นี่เสียชีวิต ๑ คน ต้นไม้จะต้องถูกโค่นล้ม ๑ ต้นเพื่อทำโลงศพ ช่วงหลังเจ้าอาวาสจึงประกาศว่าใครต้องการโลงศพ ท่านจะบริจาคให้ ทำให้ป่าไม้บริเวณนี้จึงยังคงหลงเหลืออยู่ ปัจจุบันวัดมีเนื้อที่ทั้งหมด ๔๐ ไร่ “ เรื่องแรงบันดาลใจในการสร้างอุโบสถ อาตมามีแนวคิดว่าคนเราเกิดมาครั้งเดียวถ้าได้บวชให้พ่อแม่มีโอกาสเกาะชายผ้าเหลืองก็ถือว่าที่สุดแล้ว และที่เกิดของพระที่จะบวชก็ต้องมีพระอุโบสถสำหรับประกอบศาสนพิธี ถ้ามีอุโบสถในวัดใกล้บ้าน ลูกหลานจะได้บวชในบ้านของตัวเองไม่ต้องไปบวชไกล เพื่อบูชาคุณแผ่นดิน” อุโบสถ วัดพุทธนิมิตใช้เวลาสร้างร่วม ๙ ปี เริ่มตั้งแต่ปี ๒๕๔๗ โดยโครงสร้างนั้นพระในวัดและชาวบ้านมาช่วยกันสร้าง แบ่งเป็นกลุ่ม ทั้งขุดทั้งเลื่อย ทั้งแบกทั้งขน คนละไม้คนละมือ ใช้เสาถึง ๒๘ ต้น ชาวบ้านบางคนทำงานไปก็บ่นพึมพำว่า สงสัยจะได้เห็นแต่หลุมเสา ด้วยหวั่นใจว่าจะสร้างไม่สำเร็จ “ มีอยู่วันหนึ่ง อาตมาปีนขึ้นบนหลังคาเพื่อก่อสร้างอุโบสถ มีพ่อค้าวานิช คนหนึ่งเดินทางมาที่วัดเห็นอาตมาทำงานอยู่ จึงถามว่า เป็นพระทำไมจึงปีนขึ้นไปทำบนหลังคาขนาดนั้น อาตมาก็บอกว่าก็จะอะไรอีกล่ะ ก็มันไม่มีเงินนี่แหละ เขาคงเห็นความตั้งใจของพระและชาวบ้าน จึงให้งบประมาณสนับสนุนเรื่อยมา โดยบริจาค ถึง ๘ ล้านบาท โดยกำชับว่าไม่ให้อาตมาปีนไปทำบนหลังคาอีก ให้หาช่างชำนาญงานมาทำหลังจากนั้น ๑ ปี ย้อนกลับมาดู เขาบอกทำไมเร็วจังและทึ่งในรูปทรงและศิลปะของอุโบสถ ล่าสุดก็นำคณะมาทอดผ้าป่าที่วัดหนึ่งคันรถบัส และก็เรี่ยรายคณะเป็นรายบุคลคลเป็นการแชร์บุญ คนละล้านสองล้าน แต่ละคนก็มีแรงศรัทธาอย่างล้นเหลือวันนั้นได้เงินบริจาคร่วม ๑๕ ล้านบาท และสร้างเสร็จในปี ๒๕๕๗ ด้วยงบประมาณ ๒๘ ล้านบาท” สำหรับจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของอุโบสถวัดพุทธนิมิต ที่ใครพบเห็นต่างชื่นชมว่าสวยงามจริงๆคือเป็นการสร้างที่ผสมผสานออกแบบลวดลายด้วยศิลปะ เชียงทองหลวงพระบาง กับศิลปะล้านนา และอีสานบางส่วนแตกต่างจากอุโบสถทั่วไป ด้วยกุศโลบายปริศนาธรรม ดึงคนเข้าวัดทำบุญ ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงธรรมะ อุโบสถวัดพุทธนิมิตสร้างเสร็จในปี ๒๕๕๗ ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเดินทางพกกล้องมาบันทึกภาพแทบทุกวัน ผู้เขียนได้เข้าไปชื่นชมความงามของอุโบสถโดยมีพระอธิการสุพิช รตนโชโต คอยให้ความกระจ่างถึงความโดดเด่นในศิลปะแต่ละแง่มุม อุโบสถแห่งนี้จะมีจุดเด่นตั้งแต่การออกแบบก่อสร้างฐานด้วยหินแม่น้ำโขง หลังคามุงด้วยกระเบื้องไม้แท้ ผลงานประติมากรรมลอยตัวที่มองได้รอบด้าน เป็น ๓ มิติ ปั้นด้วยปูนสดมีความละเอียดงดงามยิ่งผสมผสานกับสีได้อย่างลงตัว ที่บันไดหน้าอุโบสถ จะเป็นพญานาคสีทอง นามว่าท้าวมหาราชจตุโลก (ท้าววิรุปักษ์) ผู้ปกครองแห่งปัจจิม จ้าวแห่งพญานาคทั้งปวง บันไดอุโบสถด้านทิศตะวันออกเป็นประติมากรรมลอยตัวรูปสิงห์ทิพย์ ออกแบบลวดลายผสมผสานกึ่งสัตว์ในวรรณคดีให้มีรูปแบบลวดลายที่สวยงามโดดเด่น ด้านบันไดทิศตะวันตกเป็นประติมากรรมลอยตัวครึ่งคนครึ่งพญานาค ที่เป็นองค์นาคีนาคา สื่อถึงตำนานพญานาคที่มีอิทธิฤทธิ์ที่สามารถแปลงร่างเป็นคนได้ เสาอุโบสถเป็นประติมากรรมปั้นปูนสดประดับกระจกเงาเป็นคันทวย ๑๒ นักษัตร เป็นสัตว์มงคลประจำปีเกิดซุ้มประตูหน้าด้านหลังพระประธาน จั่วหน้าและหลังอุโบสถ รวมทั้งหน้าต่างข้างเป็นประติมากรรมนูนสูงศิลปะล้านนา ส่วนบานหน้าต่างแกะสลักไม้ตะเคียนเป็นพญาครุฑ พญานาค และช้างทิพย์ ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานเป็น องค์สมเด็จองค์พระปฐม ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือพระนามว่า สมเด็จพระพุทธสิกขี ที่ ๑ ที่หลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( เกี่ยว) ทรงเจิมป้ายเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ เวลา ๑๗.๐๐น. ณ วัดสระเกศ จิตรกรรมฝาผนัง เป็นภาพเขียนสีน้ำ เรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา คำสั่งสอน และประเพณีอีสาน ฮีต ๑๒ คอง ๑๔ ( คองหมายถึงแนวทางหรือครรลองซึ่งหมายถึงธรรมเนียมประเพณี ๑๔ อย่าง) สร้างความสวยงามวิจิตรตระการตามากขึ้น มีภาพพระธาตุประจำวันเกิดทั้ง ๗ คือพระธาตุพนม สำหรับคนเกิดวันอาทิตย์ พระธาตุเรณูนคร คนเกิดวันจันทร์ พระธาตุศรีคูณ อ.นาแก ประจำวันอังคาร พระธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก ประจำวันพุธ พระธาตุประสิทธิ์ อ.นาหว้า คนเกิดวันพฤหัสบดี พระธาตุอุเทน อ.ท่าอุเทน ประจำวันศุกร์ พระธาตุนคร อ.เมืองคนเกิดวันเสาร์ หากท่านมีโอกาสมานครพนมคงไม่พลาดที่จะแวะชมความอลังการความสวยงามของอุโบสถวัดพุทธนิมิต บ้านตาลหนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ห่างจากตัวอำเภอท่าอุเทนไปตามเส้นทางอำเภอบ้านแพงไม่ถึง ๓๐กิโลเมตร ขวามือมีป้ายบอกบ้านตาลหนองเทา เลี้ยวขวาเข้าไปหมู่บ้านริมแม่น้ำโขง นับเป็น หนึ่งเดียวในจังหวัดนครพนมจริงๆครับ หรือจะโทรไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ๐๘-๑๙๗๔-๒๑๓๔ -----------------------------------------------