รวบรวมความรู้ ภูมิปัญญาชาวบ้านของไทย ให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่ออย่างภาคภูมิใจ
โรคเก๊าท์-รูมาตอยด์ โรคเก๊าท์-รูมาตอยด์ จำรัส เซ็นนิล/รวบรวม-เรียบเรียง มีหลายคนมาบ่นกับผมถึงปัญหาปวดข้อปวดเข่า จะกินอาหารอะไรก็ต้องระมัดระวังกล้วกินเข้าไปแล้วจะมีอาการปวดกำเริบ เข้าไปอีก เงินทองหามาได้เท่าไหร่ไอ้โรคนี้มันพาไปหาหมอทั้งยาฉีดยากิน จ่ายเงินแทบไม่ทัน “ คุณจำรัส มียาดีอะไร หมอเก่งที่ไหนแนะนำด้วยเถอะ” เสียงบ่นเชิงเรียกร้องที่ผมได้ฟังจนคุ้นหู เวลาผมไปไหนก็จะซอกแซก ค้นหาสมุนไพรดีๆมาเล่าให้ฟัง พูดถึงโรคเก๊าท์-รูมาตอยด์ บางคนอาจสงสัยว่าโรคเก๊าท์-รูมาตอยด์เกิดจากอะไร โรคเก๊าท์ เกิดจากภาวะที่กรดยูริคในเลือดมีปริมาณสูงเกินไป เกินกว่าที่จะสามารถอยู่ในเลือดในรูปสารละลายได้ จึงมีการ ตกตะกอนสะสมอยู่ตามที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะในที่ที่มีอากาศเย็นกว่าบริเวณอื่น เช่น ตามข้อ ทำให้ข้ออักเสบ หรือ ตามศอก นิ้ว ติ่งหู ตาตุ่ม หลังเท้าทำให้เกิดปุ้มก้อนเกิดขึ้น อาการของเก๊าท์ที่สำคัญคือ ข้ออักเสบ มักเกิดที่บริเวณนิ้วหัวแม่เท้า, ข้อเท้า เป็นต้น โดยข้อที่อักเสบ จะบวม แดง ร้อน และ ปวดมาก ชัดเจน (ถ้าข้อที่ปวด ไม่บวม แดง ร้อน หรือมีอาการไม่ชัดเจนให้สงสัยไว้ ก่อนว่าไม่ใช่เก๊าท์) โดยมากมักเป็นข้อเดียว และมีอาการอักเสบอยู่ประมาณ ๕-๗วัน อาการจะค่อย ๆ ทุเลาไปได้เอง จนหายสนิท ระหว่างที่ไม่มีอาการ จะไม่มีความผิดปกติใด ๆ ให้เห็น เมื่อข้ออักเสบขึ้นใหม่ จะมีอาการเช่นเดิมอีก อาการจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเป็นมากขึ้น อาการข้ออักเสบจะเป็น มากขึ้นหลายข้อมากขึ้น เป็นนานและรุนแรงขึ้น รวมทั้งเกิดปุ่มก้อนของยูริค สะสมมากขึ้น ผู้ป่วยระยะนี้มักมีไตวายร่วมด้วย ส่วนโรครูมาตอยด์ เป็นโรคข้ออักเสบเรื้อรังชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเด่นคือ มีการเจริญงอกงามของเยื่อบุข้ออย่างมาก เยื่อบุ ข้อนี้จะลุกลามและทำลายกระดูกและข้อในที่สุด โรคนี้มิได้เป็นแต่เฉพาะข้อเท่านั้น ยังอาจมีอาการทางระบบอื่น ๆ อีก เช่น ตา ประสาท กล้ามเนื้อ เป็นต้น ล่าสุดคุณหมอเนตรดาว ยวงศรี แพทย์แผนไทย ทายาทของหมอถาวร ยวงศรี หมอพื้นบ้านที่สืบสานภูมิปัญญาและ ประสบการณ์มายาวนาน ได้แนะนำตำรับยาสมุนไพรบำบัดโรคเก๊าท์-รูมาตอยด์ ให้ผู้ป่วยได้พึ่งพาตนเอง ปรุงยารับประทาน ตำรับนี้อาจารย์เนตรดาว บอกว่า ยังไม่ทราบที่มาของตำรับ แต่มีคนทำแล้วหายมามากแล้ว ดังนั้น ถ้ารักษาหาย ให้ทำบุญให้กับเจ้าของตำรับยาโบราณนี้ด้วย โดยมีตัวยาถึง ๗ ชนิด ดังนี้ ๑. ใบยอบ้าน ชนิดไม่อ่อน ไม่แก่ เป็นใบขนาดกลาง เอามาล้างให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วนำมาซอยเป็นเส้นเล็ก ๆ น้ำหนัก ๒ บาท หรือ ๓๐ กรัม ๒. แก่นยอป่า หรือ เรียกว่า อุ้มลูกดูหนัง จะมีสรรพคุณ ช่วยขับระดู ติดเชื้อหลังคลอดได้ น้ำหนัก ๒ บาท หรือ ๓๐ กรัม ๓. ฝางเสน จะใช้แก่น บำรุงเลือด สรรพคุณทางยาของฝางเสนนี้โดดเด่นมาก็คือ บำรุงเลือดบำรุงกำลัง บำรุงร่างกายได้ดี แก้อาการท้องร่วงท้องเสีย ช่วยทำให้สุขภาพของผู้หญิงดีในระบบของรอบเดือน ช่วยเรื่องของปอดให้มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจน ได้ดี หรือถุงลมในปอด ให้ใช้น้ำหนัก ๒ บาท หรือ ๓๐ กรัม ๔. ข้าวเปลือกเจ้า น้ำหนัก ๑ บาท หรือ ๑๕ กรัม ๕. ใบเตย สดหรือแห้ง น้ำหนัก ๑ บาท หรือ ๑๕ กรัม ๖. ขลู่ ใช้ทั้งต้นและใบ ซื้อได้ตามร้านทั่วไป จะบำรุงไต แก้ปัสสาวะ รักษาโรคนิ่ว หรือโรคไต ได้ดี น้ำหนัก ๑ บาท หรือ ๑๕ กรัม ๗. รางจืด น้ำหนัก ๑ บาท หรือ ๑๕ กรัม ใช้ใบและเถาด้วย จะดูแลเรื่องสารพิษต่าง ๆ แก้ปอดอักเสบ ปอดบวมได้ ให้ต้มทั้งหมด ๑ ชุด ใช้ได้ ๑๕ วัน แต่ให้ต้มกิน ๒ ชุด ใช้เวลา ๑ เดือน โดยถ้าดีขึ้น ให้ลดการกินยาลง ซึ่งปกติจะต้อง กินยานี้ ๑ ถ้วยกาแฟ (แบบโบราณ) ๓ เวลา คือ ก่อนอาหารเช้า ก่อนอาหารกลางวัน และก่อนอาหารเย็น แต่ถ้าอาการดีขึ้นให้ ลดการกินยาลงเป็นช่วงตามลำดับ ดังนี้ ปกติก่อนอาหาร ๓ เวลา - ลดลงเหลือ ก่อนอาหารเช้า และก่อนอาหารเย็น - ลดลงเหลือ ก่อนอาหารเช้า และก่อนอาหารกลางวัน - ลดลงเหลือ ก่อนอาหารเช้า - ลดลงจากกินยา ๑ แก้ว เป็นครึ่งแก้ว - พอหายดี ให้เลิกกินยาตำรับดังกล่าว ขณะเดียวกัน ต้องควบคุมเรื่องอาหารการกินด้วย คือห้ามทานอาหารแสลง เช่น สัตว์ปีก เครื่องใน กระถิน หน่อไม้ ชะอม ยอดผักต่างๆ แตงกวา ข้าวเหนียว สุรา เป็นต้น ยกเว้น ถ้าภาคไหนที่ทานข้าวเหนียวอยู่แล้ว ก็ให้ทานได้ แต่ให้ทานข้าวเหนียว น้อยลง ก็จะช่วยรักษาโรคเก๊าท์ และโรครูมาตอยด์ได้ผล ชะงัดดีนักแล. และใครสนใจที่จะให้ อ.เนตรดาววินิจฉัยโรคและรักษาก็ สามารถไปที่คลินิกการแพทย์แผนไทยเนตรดาวได้ อยู่ที่ สุขุมวิท ๖๖/๑ อัคนาทพลาซา ทุกวัน เวลา ๑๐.๐๐น.-๒๐.๐๐น. ยกเว้น วันอังคารเพราะวันอังคารอาจารย์รักษาที่ ซอยราซาล ๔๓ หรือสุขุมวิท ๑๐๕ เขตบางนา กทม.โทร.๐-๒๗๐๖-๒๖๑๐ , ๐๘-๑๓๐๘-๖๙๒๒ ------------------------------