29 ก.พ. 2555 เวลา 9:37 น., โดย จำรัส เซ็นนิล
น้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูสับปะรด
จำรัส เซ็นนิล รวบรวม/เรียบเรียง
จริงๆแล้วน้ำส้มสายชูจากสับปะรดผมเคยนำมาเผยแพร่หลายปีแล้ว บ้างก็จำนำไปทำใช้แต่หลายคนก็ยังไม่รู้จักเอาความสะดวกเข้าไว้เสียเงินซื้อตามกระแสว่ายี่ห้อนั้นดียี่ห้อนั้นไม่ดี อันนี้ใช้ได้และอันนั้นใช้ไม่ได้ ก็ต้องใช้ดุลยพินิจ และค้นคว้าหาความรู้ครับ
น้ำส้มสายชูที่ทำจากสับปะรด ทำเองก็ได้และซื้อก็ดี (ถ้ามีตังค์)โบราณว่าไว้ว่า แมวสีอะไรก็ได้ขอให้จับหนูเป็นก็โอเค เช่นเดียวกันยี่ห้ออะไรที่ทำจากสับปะรด(ต้นตำรับบันทึกไว้) ท่านจะใช้แอ็ปเปิ้ล หรือข้าว ก็สุดแต่ท่านถ้ามันดี ที่มีคุณสมบัติ ละลายหินปูนในร่างกาย สัจธรรมการพิสูจน์สามารถละลายเปลือกไข่ที่เป็นหินปูนได้ ก็ถือว่าสัมฤทธิ์ผล

วิธีทำก็ง่าย เอาเนื้อพร้อมแกนสับปะรดมา ๓ กิโลกรัม สับเป็นท่อนเล็กๆ ผสมน้ำตาลทรายแดง ๑ กิโลกรัม (ถ้ารวยหน่อยเปลี่ยนเป็นน้ำผึ้งยิ่งสุดยอด) น้ำต้มสุกเย็นหรือน้ำสะอาด ๕ ลิตร หมักไว้ ๑ เดือน
ก็สามารถกรองเอาน้ำไปใช้ได้ เรียกน้ำส้มสายชูจากสับปะรด ใส่ขวด ติดสติกเกอร์ ยี่ห้อ “กูทำเอง” กินเอง ฮ่าๆๆๆ
ง่ายเกินไปใช่ไหมครับ หรือใครอยากจะกระจายรายได้ อุดหนุนกันไปครับ นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนจนเท่านั้นเอง อย่าบอกใคร..มีบริษัทต่างประเทศใช้แกนสับปะรดหมัก มากกว่า ๑๐ ปี น้ำใสแจ๋ว บรรจุขวดอย่างดี ส่งขายเมืองไทยรวยเป็นล้าน แล้วเอาคนไทยไปดูงาน ที่โรงงาน..ดูแต่โรงงานพร้อม ถังยักษ์เป็นระเบียบสวยงามใหญ่โต แต่โทษทีครับด้านในหมักอะไรเขาไม่บอก สรรพคุณแก้อัมพฤกษ์-อัมพาต ละลายหินปูนก็แค่นั้นเอง (ถ้าไม่อยากให้ใครก็รู้แต่งกลิ่นนิดหน่อย )
น้ำส้มสายชูสูตรนี้ถ้านำไปกินก็ผสมน้ำผึ้งเพิ่มเติมตามใจชอบ น้ำส้ม ๑ ช้อน น้ำผึ้งตามใจชอบ น้ำเปล่าครึ่งแก้ว ผมกินมานานแล้ว หรือจะนำไปดองไข่ก็ไม่มีใครห้าม ฮ่าๆๆ

จริงๆแล้วการทำน้ำส้มสายชูทำได้จากวัตถุดิบหลายชนิด เช่น การทำน้ำส้มสายชูนั้น สามารถทำได้จากวัตถุดิบหลายอย่าง เช่น ข้าว องุ่น แอปเปิล ผลไม้รวม มะพร้าว ปาล์ม ลูกเกด สับปะรด แล้วแต่จะทำครับ
น้ำส้มสายชูมีกรดน้ำส้ม ซึ่งออกฤทธิ์ได้คล้ายกับกรดอินทรีย์ที่เป็นกรดอ่อนชนิดอื่น เช่น วิตามิน C
หรือกรดแอสคอร์บิคคือ ช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหาร เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฯลฯ
ปัจจุบัน น้ำส้มสายชูที่ได้รับความนิยมคือน้ำส้มสายชูหมักจะมีสีเหลืองอ่อนตามธรรมชาติ มีรสหวานของน้ำตาลที่ตกค้างมีกลิ่นของวัตถุดิบที่ใช้ในการหมัก ความแตกต่างในด้านกลิ่นรสและความเข้มข้นขึ้นอยู่กับชนิดของวัตถุดิบที่ใช้ในการหมัก ถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว น้ำส้มสายชูหมักจะใส มีสีเหลืองอ่อน ไม่มีตะกอน ยกเว้นตะกอนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และมีปริมาณกรดน้ำส้มไม่น้อยกว่า 4%ซึ่งกระบวนการหมักบ่มรสชาติคล้ายคลึงกับไวน์ แต่ปราศจากเอธิลแอลกอฮอล์ ส่วนน้ำส้มสายชูกลั่นจะใสไม่มีสี มีกลิ่นรสที่เป็นเอกลักษณ์
ดื่มน้ำสัมสายชูหมักจะทำให้ภาวะเลือดเป็นกรดที่เกิดจากคาร์บอนไดออกไซด์ลดลง ซึ่งจะทำให้ตับทำงานน้อยลง น้ำส้มสายชูหมักจึงเปรียบเป็นโอสถทิพย์จากธรรมชาติขนานแท้ที่ช่วยบำบัดร่างกายให้กลับมาอยู่ในภาวะสมดุล
รู้อย่างนี้แล้ว..ซื้อหรือทำเอง สุดแต่ท่านครับ
สวัสดีน้ำส้มสายชู..จากสับปะรด
--------------------------------------------------