รวบรวมความรู้ ภูมิปัญญาชาวบ้านของไทย ให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่ออย่างภาคภูมิใจ
ทีวีดาวเทียม Health plus channel เฮลท์ พลัส แชนแนล จำรัส เซ็นนิล รวบรวม/เรียบเรียง ผมได้รับการเชื้อเชิญจากคุณสุธี ขันธศักดิ์ ครีเอทีฟ รายการคลินิก ชีวรักษ์ ทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง Health plus channel เฮลท์ พลัส แชนแนลให้ไปร่วมเป็นวิทยากรในรายการ รายการนี้ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา ๑๓.๓๐-๑๕.๐๐น. ดำเนินรายการโดยคุณโก้และคุณเฟรช สองพิธีกรดัง อาคารสถานีอยู่ที่อาคาร โอ ซี เอ็ม ( O.C.M. ) ซอยสยามสามัคคี หรือรู้จักกันดีคือซอยแนวหน้า ๖๖ ถนนวิภาดี-รังสิตแจ้งวัฒนะ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ผมขับรถไปถึงก่อนเวลานัดหมายจึงขับรถให้ทะลุซอยไปเลยด้วยความสงสัยว่าซอยนี้ทะลุถึงถนนเส้นไหน ผลปรากฏว่าเป็นซอยตันครับ สุดปลายซอยเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ ประตูด้านหน้าเปิดกว้าง ภายในมีร้านค้า โรงเรือน บ้านเป็นหลัง มีอู่ มีถนนพอรถวิ่งได้คันเดียวไปยังลานจอดรถกว้างประมาณครึ่งสนามฟุตบอล ผมขับรถวิ่งเข้าไปเพื่อกลับรถ พลันสายตาไปสะดุดที่ต้นไม้ริมทาง เห็นต้นสมุนไพรคุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหน กลับรถเสร็จผมชะลอรถจอดลงไปดูต้นสมุนไพรที่ผมสงสัย เอ๊ะ..นี่มันต้นลึกลืน..นี่ หรือต้นชุมเห็ดไทย สรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกายให้สดชื่น ทำไมที่นี่ต้นจึงสูงดูท่าทางดินจะดี ชูช่อตรงมีเมล็ดเต็มไปหมดซึ่งกำลังแก่จัด ผมมองซ้ายมองขวาชั่งใจ สภาพต้นชุมเห็ดไทยขึ้นอยู่ริมถนนสภาพรกมีวัชพืชขึ้นเต็ม เจ้าของคงไม่เห็นคุณค่า ถ้ามีการถากถางต้นชุมเห็ดไทยก็คงถูกทำลายแน่ ผมตัดสินใจหักยอดชุมเห็ดไทยที่มีฝักเต็มไปหมดมาสองสามยอดไว้หลังรถ คิดในใจว่าจะหาเวลาเอาไปเพาะแจกชาวบ้าน หมอวินัย วงษ์จินดา ( ๐๘-๗๙๔๘-๕๘๐๓) หมอพื้นบ้าน ตำบลกุดลิ้นจี่ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู เคยแนะนำผมว่า ต้นลึกลืน หรือชุมเห็ดไทยนี้สรรพคุณแก้เบาหวาน แก้ซางในเด็กที่มีแผลพุพองเป็นตุ่มที่ผิวหนัง เวลานอนกลางคืนจะมีเหงื่อกลิ่นเหม็นๆออกตามหัว ให้นำต้นชุมเห็ดไทยทั้ง ๕ ตั้งแต่รากถึงยอด ต้มแล้วเติมน้ำตาลลงนิดหน่อยแล้วให้เด็กกินอาการโรคซางจะหายทันที ผมขับรถเข้ามาจอดที่อาคาร โอ.ซี.เอ็ม ทันทีที่เท้าเหยียบพื้นอาคารท้องเจ้ากรรมก็ทำพิษปวดท้องถ่าย ฮ่าๆๆ เอาละซิ..สุขาอยู่หนใด สอบถามเจ้าหน้าที่บอก “ พี่ขึ้นชั้นสองแล้วเลี้ยวขวาค่ะ” เฮ้อ..ค่อยยังชั่ว ผมคิดในใจ คุณสุธี ขันธศักดิ์ ออกจากห้องน้ำ ยังไม่ทันคิดว่าจะไปทางไหนดี คุณสุธี ขันธศักดิ์ เดินมาทักทายผม เข้าใจว่าคงรออยู่แล้วตามเวลานัดหมาย “ สวัสดีพี่..ผมจำพี่ได้ เอกลักษณ์ใส่หมวก ผมเห็นในเว็บแล้ว” คุณสุธี พาไปนั่งพักที่ห้องรับแขก เจ้าหน้าที่นำน้ำมาให้ดื่ม สักพักคุณยุวดี บุญครอง เดินมาผมยกมือไหว้ คุณสุธีแนะนำก็ได้คุยกันเล็กน้อย คุณยุวดีบอกคุณสุธีว่าให้เชิญผมเป็นที่ปรึกษารายการแล้วหันมาทางผมบอกว่า “ อาจารย์มาช่วยกัน ส่งเสริมภูมิปัญญาไทยแพทย์ทางเลือก” ผมได้ แต่ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร นั่งสักพักคุณสุธี ก็เชิญผมไปที่ห้องแต่งหน้า “ แต่หน้าด้วยเหรอ..” ผมถามตกใจ.. เข้าไปห้องแต่งหน้า ช่างสาวก็เริ่มเช็ดหน้าตาให้ มีการเขียนคิ้ว ทาลิปสติกที่ริมฝีปากเสร็จสรรพ เดี๋ยวคงเหนียวเหนอะ อ้าปากไม่ออกเป็นแน่ ฮ่าๆๆ ถึงเวลาออกอากาศ ก็ได้พูดคุยกับสองพิธีกรดังอย่างออกรสชาติ ต้องยอมรับว่าทั้งสองอัธยาศัยดี พูดคุยสนุกเป็นกันเอง ทีมงานทุกคนก็ทำงานช่วยเหลือกันดีทั้งช่างกล้อง ผู้กำกับเวที ในรายการพิธีกรได้แนะนำหนังสือเล่มเดียวคุ้มโรคภัยที่ผมเขียนด้วย ใครสนใจเป็นเจ้าของก็ไปดูที่ร้านหนังสือซีเอ็ดบุ๊คทั่วประเทศ พิธีกรได้เปิดโอกาสให้ผู้ชมโทรศัพท์เข้ามาสอบถามปัญหาสุขภาพได้ มีอยู่รายหนึ่งถามว่าเป็นเบาหวานมีหยูกยาอะไรแนะนำบ้าง ผมแนะนำให้ใช้ต้นดอกกระดุมทองที่ส่วนใหญ่เขานำไปปลูกเป็นพืชคลุมดินตามขอบบ่อป้องกันดินทรุด ผมจำได้ว่าคุณลำไย ศรีสงสาร ที่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เคยแนะนำว่ามีอาจารย์คนหนึ่งที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ส่งไปให้น้องชายที่เมืองนอก ซึ่งป่วยเป็นโรคเบาหวาน ดื่มน้ำดอกกระดุมทองแล้วหายจากโรคเบาหวาน ปัจจุบันมีการส่งกระดุมทองไปนอกเป็นตันๆ เขาว่ายังงั้น ยังไงใครที่เป็นเบาหวานก็ลองสูตรนี้ดู อีกรายถามเรื่องสรรพคุณของฟักข้าว ผมบอกฟักข้าวในอดีตเป็นอาหารของกษัตริย์เวียดนาม เขาจะเอาเนื้อเยื่อผสมกับข้าวร้อนๆกิน ป้องกันมะเร็ง เม็ดฟักข้าวกำลังมีการวิจัยรักษาโรคเอดส์ ส่วนเปลือกมีคนนำไปทำยาดองบำรุงกำลังสำหรับชายหญิงให้คึกคะนอง ดังม้าศึก สูตรนี้คุณทิน แฟนคลับ JAMRAT.NET แนะนำมาพร้อมกับภาพประกอบ ต้องขอขอบคุณและคารวะมา ณ โอกาสนี้ การทำสูตรนี้ให้เอาฟักข้าวมาล้างน้ำให้สะอาดฝ่าเอาเม็ดในออกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่โหลแก้วเติมน้ำผึ้ง ๒ ขวด และเหล้าขาว ๑ ส่วน เพื่อป้องกันการบูดเน่า ดองไว้มากกว่า ๗ วันก็รับประทานได้ กินได้ทั้งมุมแดงมุมน้ำเงิน ไม่เกิน ๑๕ นาที ชกกันไม่หยุด ฮ่าๆๆ หลังรายการผมกลับมาชมงานโฮมโปรที่อิมแพคเมืองทองธานี ระหว่างเดินอยู่นั้นได้ยินเสียงเรียก “ อาจารย์ๆๆ” ผมหันไปดูเห็นสุภาพสตรีอายุประมาณสามสิบกว่าๆหน้าตาดีปล่อยผมยาวนั่งรถเข็นขาสองข้างไม่มี ผู้ชายที่เข็นรถเข็นเป็นฝรั่งชาวต่างชาติ ปกติจะเห็นคนไทยเป็นฝ่ายดูแลชาวต่างชาติแต่ภาพนี้ชาวต่างชาติดูแลคนไทย เอ..กลับกันเลย ผมยังไม่ทันได้พูดอะไรเอก็พูดต่อ “ อาจารย์ๆ หนูเห็นอาจารย์ในทีวี ใส่หมวก หนูจำได้ เย็นนี้จะเข้าไปดูที่เว็บ JAMRAT.NET ของอาจารย์” “ ขอบคุณมากครับๆ” เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ชุลมุน เลยไม่ไดคุยกันมาก ผู้คนเดินไปมาเยอะผมได้แต่ยิ้มๆแล้วกล่าวคำขอบคุณ อดภูมิใจลึกๆว่า เราได้มีโอกาสให้ความรู้ผู้ชม ฟังจากเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้มอิ่มอกอิ่มใจ เหมือนญาติพี่น้อง หรือคนรู้จักกันมานานแรมปี ด้วยความบริสุทธิ์ใจ วันนั้นมีโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเรื่องสมุนไพรและหนังสือที่ผมเขียนจำนวนมาก ต้องขอบคุณรายการคลินิก ชีวรักษ์ ที่ระหว่างออกอากาศได้มีการ ขึ้นโชว์หมายเลขโทรศัพท์ของผมให้ผู้สนใจสอบถามปัญหาได้ ขอบคุณจากใจอีกครั้งครับ