รวบรวมความรู้ ภูมิปัญญาชาวบ้านของไทย ให้คนรุ่นหลังได้สืบสานต่ออย่างภาคภูมิใจ
วันสิ้นโรค-ภัย "มะเร็งเม็ดเลือด" วันสิ้นโรค-ภัย ( ๒๑ ธค.๒๕๕๕) “มะเร็งเม็ดเลือด” จำรัส เซ็นนิล รวบรวม/เรียบเรียง วันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ร่ำลือกันว่า “วันสิ้นโลก” แต่ผมคิดว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นวันสิ้นโรค-ภัย น่าจะสบายใจมากกว่า ถ้าเราคิดมากจะไม่สบายใจ ท่านพุทธทาสภิกขุ แม่ทัพธรรมจากสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานีท่านเคยสอนไว้ว่าอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด มันเป็นเช่นนั้นเอง ตามธรรมชาติ วันนี้ผมและอาจารย์พัฒน์ สันทัด วิทยากรด้านการเกษตร ผู้อำนวยการโรงเรียนชาวนาไทย ได้นัดหมายกันเดินทางขึ้นเหนือเพื่อเยี่ยมลูกศิษย์ โรงเรียนชาวนาไทยภาคเหนือ สถานที่แรกคือ บ้านของคุณเฉลิม ไทยยะ บ้านพรานกระต่าย อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร คุณเฉลิมเล่าให้ฟังว่าตัวเองมีอาชีพขายเนื้อหมูที่ตลาดเทศบาลพรานกระต่ายป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือด และโรคภูมิแพ้ด้วย จะมีอาการวูบบ่อยๆกินอะไรก็แพ้ เป็นๆหยุดๆสองวันเป็นสามวันเป็น แล้วจะมีจุดเขียวขึ้นตามตัว จะปวดแสบปวดร้อนมาก และเป็นตะคริวบ่อย หมอบอกเซลล์เม็ดเลือดขาวทำลายเซลล์ เซลล์จะล้มหมด ช่วงนั้นก็กินยาสมุนไพรแบบขายตรงเพื่อจะได้ซื้อในราคาถูกและค้นคว้าหาข้อมูลในการดูแลรักษาสุขภาพ กิน ๖ เดือนถ้าไม่ดีก็ต้องเปลี่ยนสมุนไพร ตัวเริ่มบวม ผิวเป็นจุดแดงๆเพิ่มขึ้น มีคนแนะนำให้ฟังรายการทั่วทิศถิ่นไทย ที่คุณจำรัสจัดทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ถือเป็นทางเลือกสุดท้าย ได้ฟังคุณจำรัสคุยกับพ่อเลี้ยงวรรณ หมอแดงและอาจารย์พัฒน์ สันทัด แนะนำการดูแลสุขภาพ การทำวารีบำบัดอายน้ำร้อน-เย็นสลับกันเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน “ หนูกินผักสีเขียวและข้าวกล้องข้าวชีวจิตทุกชนิด ตามคำแนะนำของพ่อเลี้ยงวรรณ พิมพนิช นักธรรมชาติบำบัด เพื่อล้างเลือดอย่างเคร่งครัดประมาณ ๔ เดือน งดเว้นเนื้อสัตว์ น้ำมันพืช น้ำปลา เกลือ และของหมักดอง อาหารทะเล ของย่างทุกชนิด ให้เลือกกินเอารสชาติผักอย่างเดียว โดยนึ่ง หรือต้มให้ปลอดสารพิษ มียอดแค ใบตำลึงเอาทั้งหนวดด้วยเพื่อให้หนวดตำลึงกวาดจับสารพิษในลำไส้ แล้วก็ทำน้ำซุปจากมะเขือเทศ บล็อกโคลี่ หอมหัวใหญ่ กระเทียม เพื่อให้กล้ามเนื้อกระชับ วารีบำบัดอาบน้ำเย็นที่แช่น้ำแข็งและน้ำร้อนพอทนได้ อาบสลับกัน ๑๕ ขันภายใน ๒ วินาที ห่างกัน ๖ ชั่วโมง/ครั้ง ราดจากหัวลงมา ถ้าเริ่มจากน้ำเย็นก็ให้จบที่น้ำเย็น ถ้าเริ่มจากร้อนก็ให้จบที่น้ำร้อน” คุณเฉลิมยังเล่าอีกว่า เซลผิวตัวเองเสื่อมสภาพตายหมด เวลาร้อนจะร้อนจัด หนาวก็หนาวจัด หลังกินฮอร์โมนไข่ จะมีตุ่มขึ้นตามตัว ที่หัวก็มีเม็ดขึ้นมาเหมือนเม็ดข้าวสาร เหมือนถูกขับพิษออกมาตุ่มนี้ใครจับไม่ได้มันจะปวดเจ็บถึงขั้วหัวใจ ประมาณ ๓-๔ เดือนจึงหมดพา ส่วนประจำเดือนปกติจะมีมาเดือนละครั้ง แต่กินฮอร์โมนไข่จะมีขับพิษออกมาทุกวันมีสารพัดสีออกมาเป้นอย่างนี้อยู่ระยะหนึ่งก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกวันนี้คุณเฉลิมก็ยังกินฮอร์โมนไข่อยู่ นอกจากนั้นก็กินน้ำหมักผลไม้เพิ่มเติม ผมถามคุณเฉลิมว่าทำไมปฏิเสธการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันเธอบอกว่า “ หนูเป็นภูมิแพ้ด้วย ถ้าใช้ยาแรง แพ้ยาหนูตายแน่นอน” คุณเฉลิมพาผมไปดูถังหมักน้ำเอ็นไซม์จากผลไม้หลายชนิดที่เธอหมักไว้ในถังหลังบ้าน มีทั้งมังคุด มะขามป้อม ลูกยอ สมอ บอระเพ็ด มะกรูดกล้วยน้ำหว้า แต่ละถังเธอหมักไว้ร่วม ๓-๔ ปี จนกลายเป็นวุ้นก็มี โดยใช้สูตร วัตถุดิบ ๓ ส่วน น้ำตาลทรายแดง ๑ ส่วน น้ำ ๕-๘ ส่วน “ คุณจำรัส ลองดมดูซิ ห้อมหอม” ผมก็ลืมตัว ถูกท้าพิสูจน์ ก็ดมไปทุกถัง “ ถังนี้ก็มะกรูด ห้อมหอมเหมือนกัน” ผมก็ขยับไปดม ระหว่างดมก็คิดไปว่า เอ..เราเป็นพันธ์อะไรหวา..โดเวอร์แมน หรือบ็อกเซอร์ หรือหลังอาน ฮ่าๆๆๆ ก่อนกลับคุณเฉลิมได้ให้ผมและอาจารย์พัฒน์ ลองดื่มน้ำเอ็นไซม์สูตรผสมของ มะขามป้อม สมอ ลูกยอ บอระเพ็ดน้ำผึ้ง ที่หมักนานร่วม ๔-๕ ปี โอ้..โห้..ท่านผู้อ่านเอ่ย..ขมๆ ฝาดๆเปรี้ยวๆหวานๆ หลังจากลงไปลำคอแล้ว ร้อนผ่าวๆจากหน้าอกถึงท้องดีจริงๆ ใครอยากได้ข้อมูลจากประสบการชีวิตเฉียดตายของคุณเฉลิมโทรมาคุยได้ที่ ๐๘-๐๑๒๒-๓๒๒๗ หรือ ๐๘-๙๘๕๘-๖๔๖๙ --------------------------------------------------------------------