เรื่องเล่าสุขภาพ

เวลาชีวิต / ผิดเป็นครู
                           “เวลาชีวิต”
                                            จำรัส  เซ็นนิล  รวบรวม/เรียบเรียง
       ใครบางคนกล่าวไว้ว่า เวลาเหมือนสายน้ำ ไม่เคยคอยใคร และเมื่อผ่านไปแล้วก็ไม่เคยหวนกลับมา เวลาเป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่มีลบ มีแต่บวกและมีแต่ทับเท่าทวีคูณ  ในช่วงแต่ละวัน เข็มนาฬิกาจะบอกเวลาเริ่มตั้งแต่ ๑ เป็น ๒-๓และ ๔ ไปจนถึง ๒๔  นาฬิกา ครบ ๒๔ ชั่วโมงก็ครบ ๑ วัน และจากวันก็จะเพิ่มเป็นเดือน เป็นปีมากขึ้นและมากขึ้น
     เวลาที่ล่วงไปนี้ก็ได้พาชีวิตเราล่วงไปด้วย โดยกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ และขณะที่เวลาได้พาชีวิตล่วงไปนั้น ก็พาอีกบางชีวิตกำเนิดขึ้น ฮ่าๆๆ  เวลาจึงเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายจริงไหมครับ
   คนที่กำลังอยู่ในห้วงของความสุขเหลือล้นจนแทบสำลัก ก็มักจะบ่นว่าเวลานี้แสนสั้นนัก ตรงกันข้ามกับอีกบางคนที่จมอยู่ในห้วงทุกข์ทรมาน เวลาของเขาจึงแสนจะเนิ่นนาน..น่าเบื่อหน่าย
 หลายคน..รอความหวังในวันพรุ่ง ก็เฝ้าแต่เร่งเร้าให้เวลาผ่านไปโดยรวดเร็ว พรุ่งนี้หวยออกรอลุ้น ฮ่าๆๆ ขณะเดียวกับคนที่มองเห็นความทุกข์ร้อนต้องเผชิญอยู่ข้างหน้าก็คอยแต่จะหน่วงเหนี่ยวพร่ำภาวนาให้มันค่อยๆผ่านไปช้าๆๆ  เจ้าหนี้ยืดเวลาให้หน่อย กำลังโจ้เหล้ากับเพื่อน...เมียอย่าเพิ่งตาม ขอต่อรองเป็นตีสามค่อยกลับ ฮ่าๆๆ
  ท่านผู้อ่านครับยังไง..เวลาก็ยังเป็นเวลา ที่เข็มนาฬิกาบ่งชี้อย่างเที่ยงตรงอยู่เช่นนั้น ไม่ว่าใครจะเร่งเร้าหรือหน่วงเหนี่ยวเพียงใดก็ตาม มันก็ยังผ่านไปล่วงไปเหมือนสายน้ำ ไม่หวนคืนย้อนกลับมาอีกได้เลย เฮ้อ...
ขณะเขียนผมนั่งมองดูเข็มนาฬิกาที่แขวนอยู่ข้างฝาเบื้องหน้าโต๊ะทำงาน....เฮ้อ..(ปล่อยลมหายใจอีกครั้ง...)เอาเถอะครับ....ปล่อยให้เข็มนาฬิกาเป็นเครื่องชี้บอกเวลาเท่านั้นก็พอแล้ว อย่าให้มันชี้ชะตาชีวิตของเราเลย..แง้ๆๆ

                             “ผิดเป็นครู”
      ผมหยิบหนังสือพระกรรมฐานกลางกรุง จากการบันทึกของดำเกิง  สงวนสัตย์ ที่เพื่อนส่งมาให้ พลิกไปพลิกมา สะดุดสายตาในคำสอนของท่านเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต วัดเทพศิรินทราวาส ขอหยิบยกมาฝากทุกท่านได้อ่านเป็นพรสอนใจในเวลาที่ทุกท่านทำงานผิดพลาดแล้วท้อแท้หมดหวัง ขอคำสอนนี้ได้จุดประกายให้ทุกท่านได้มีกำลังใจในการทำงานต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรค์อย่างมีความหวังต่อไป
   “ ความผิดนี้แหละเป็นครูอย่างดี ควรจะรู้สึกบุญคุณของตัวเองที่ทำอะไรผิดพลาดและควรสบายใจที่ได้พบกับอาจารย์ผู้วิเศษคือ..ความผิด จะได้ตรงกับคำว่า “ เจ็บแล้วจำ” ตัวทำเอง ผิดเอง นี้แหละเป็นอาจารย์ผู้วิเศษ เป็น GOOD EXAMPLE  ตัวอย่างที่ดี เพื่อจะได้จดจำไว้ สังวรระวังไม่ให้ผิดต่อไป แล้วตั้งต้นใหม่ด้วยความไม่เลินเล่อเผลอประมาท
อดีตที่ผิดไปแล้วก็ผ่านพ้นล่วงเลยไปแล้วแต่อาจารย์ผู้วิเศษยังคงอยู่ คอยกระซิบเตือนใจอยู่เสมอทุกขณะว่า “ระวัง” อย่าประมาท อย่าให้ผิดพลาดเช่นนี้อีก
            
ผิดหนึ่งพึงจดไว้              ในสมอง    
             เร่งระวังผิดสอง                ภายหน้า

             สามผิดเร่งคิดตรอง         จงหนัก  เพื่อนเอย
            
ถึงสี่อีกทีห้า                        หกซ้ำอภัยไฉน                  
       จงสังเกตพิจารณาดูให้ดีเถิด จะเห็นได้ว่า นักค้นคว้าวิทยาศาสตร์ทางโลกก็ดี และท่านผู้วิเศษที่เป็นศาสดาอาจารย์ในทางธรรมทั้งหลายก็ดี ล้วนแต่ผ่านพ้นอุปสรรคความผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วนมาแล้วด้วยกันทุกท่าน
                                                    ------------------------------------------
 
                                                                                                                              

 

blog comments powered by Disqus